
พระวรสารนักบุญมัทธิวเป็นเอกสารทางเทววิทยา สาระของพระวรสารนี้คือการช่วยกู้ให้รอดของพระเป็นเจ้าโดยทางพระคริสต์ โดยมีพระเยซูเจ้าปรากฏอยู่ในแทบจะทุกฉาก ดังนั้นขณะที่พระวรสารนักบุญมัทธิวอาจจะใช้เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์และสังคมวิทยาเกี่ยวกับศาสนายูดายและศาสนาคริสต์ในช่วงแรกๆ ได้ด้วย พระวรสารนี้ในตัวเองแล้วก็เป็นเอกสารที่ต้องทำความเข้าใจในเชิงเทววิทยาด้วย ซึ่งก็หมายความว่า ในเบื้องต้น เราต้องพยายามเข้าใจพระวรสารในหมวดทางเทววิทยาของท่านนักบุญมัทธิว พระเป็นเจ้า อาณาจักรพระเป็นเจ้า (ตรงกันข้ามกับอาณาจักรของซาตาน) คริสตศาสตร์ ศาสนจักร ประวัติศาสตร์ ความเป็นจริงตามพระสัญญาและอวสานศาสตร์ จริยศาสตร์ กฎหมาย และความเป็นศิษย์ นี่เป็นประเด็นทางเทววิทยาขั้นพื้นฐานอย่างที่สุด ซึ่งจำเป็นกระทั่งในการบรรยายพระวรสารนักบุญมัทธิวในเชิงประวัติศาสตร์ สำหรับผู้ตีความร่วมสมัยที่อ่านพระวรสารในลักษณะเป็นพระคัมภีร์ในสารบบ การตีความทางเทววิทยายังเกี่ยวข้องกับงานทางการตีความหมาย(อรรถปริวรรตศาสตร์)ในการแปลข้อยืนยันทางเทววิทยาในพระวรสารนักบุญมัทธิวเป็นหมวดหมู่ที่มีความหมายต่อยุคสมัยของตนเองด้วย
แม้ว่าแต่เริ่มเดิมทีพระวรสารจะไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อเป็นสารถึงเรา ในอีกแง่หนึ่ง ซึ่งเป็นแง่ที่สมเหตุสมผลพอกัน ที่จะกล่าวได้อย่างเป็นความจริงที่สำคัญว่าพระวรสารเขียนขึ้นมาเพื่อเรา พระวรสารทั้งหมดเป็นสิ่งที่กล่าวต่อพระศาสนจักรเพื่อจะช่วยชุมชนชาวคริสต์ในการทำความเข้าใจ ให้ความกระจ่าง และร่วมแสดงศรัทธาของชุมชนในพระเยซูเจ้าในฐานะพระคริสต์ พระศาสนจักรร่วมสมัยมีลักษณะ ร่วมในทางประวัติศาสตร์ องค์ประกอบ และเทววิทยากับชุมชนชาวคริสต์ซึ่งเป็นผู้รับสารตามเจตนาของพระวรสารแต่ดั้งเดิม ชีวิตของพระศาสนจักรตลอดช่วงเวลาหลายศตวรรษเป็นความเชื่อมโยงทางเทววิทยาที่มีชีวิตซึ่งโดยผ่านความเชื่อมโยงนี้การส่งต่อพระวรสารก็ดำเนินไปและการตีความพระวรสารใหม่ก็มีขึ้นอยู่เสมอตลอดจนถึงทุกวันนี้ ข้อเท็จจริงที่ว่าพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่เป็นหนังสือของพระศาสนจักรนั้นหมายความว่างานเรื่องการตีความ ซึ่งได้มีมาอยู่แล้วในการประพันธ์พระวรสารยังคงมีต่อไปอีกในส่วนของงานด้านอรรถปริวรรตศาสตร์ในการทำให้สารทางเทววิทยาของพระวรสารเป็นที่เข้าใจได้ในบริบททางเวลาและสถานที่ ก่อนอื่นต้องฟังสารดั้งเดิมในบริบทและหมวดหมู่ของสารนั้น ที่เป็นการกล่าวถึงพระวาจาพระเป็นเจ้าอย่างมีชีวิตต่อเรา จึงต้องแปลสารให้เข้ามาอยู่หมวดเทววิทยาร่วมสมัย ผู้แปลไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่เปิดเผยเทววิทยาของผู้เขียนโบราณออกมาในถ้อยคำของท่านเองเท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่ทำให้คนสามารถฟังเทววิทยานั้นในบริบทภาษาร่วมสมัยได้ด้วย คำอธิบายสำหรับตัวบทที่รวมอยู่ในพระคัมภีร์และการประกอบสร้างข้อความที่กล่าวถึงเทววิทยาของพระวรสารนักบุญมัทธิวอย่างเป็นระบบเป็นคนละงานกัน ณ ที่นี้จะไม่มีการพยายามสรุปเทววิทยาของพระวรสารนักบุญมัทธิว ซึ่งได้บูรณาการเข้ามาในเรื่องเล่าของท่านและมีการขยายความในคำอธิบายที่พยายามจะช่วยผู้อ่านสมัยใหม่ในการตีความตัวบทโบราณนี้โดยคำนึงถึงการแปลตัวบทนี้ออกมาในความหมายร่วมสมัย
การศึกษาพระวรสารนักบุญมัทธิวเชิงประวัติศาสตร์เป็นพันธมิตรในงานนี้ นักบุญมัทธิวเองเป็นผู้ตีความโดยยืนอยู่ท่ามกลางกระแสอันมีชีวิตของธรรมประเพณี ตีความหมายของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมเข้าในสถานการณ์ใหม่โดยมองย้อนกลับไปยังการเสด็จมาของพระคริสต์ พระราชกิจ การถูกตรึงการเขน และการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระองค์ ที่สำคัญ นักบุญมัทธิวยืนอยู่ในกระแสการตีความคริสตศาสนา ตีความหนังสือตัวบทศักดิ์สิทธิ์ของธรรมประเพณีทางคริสตศาสนาที่ผู้คนให้ความเคารพกันในศาสนจักรของท่าน (กล่าวคือแหล่ง Q และมาระโก) และธรรมประเพณี M อันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนนักบุญมัทธิว การตีความของนักบุญมัทธิวเองที่มีแสดงไว้ในพระวรสารนักบุญมัทธิวจึงได้เข้าไปในกระแสที่มีชีวิตและได้เป็นสิ่งที่มีการตีความกันในพระศาสนจักรมาเป็นเวลาสิบเก้าศตวรรษ ผู้ตีความร่วมสมัยยืนอยู่กับนักบุญมัทธิวในกระแสที่ไหลสืบเนื่องไปข้างหน้านี้ เป็นทายาทของพระคัมภีร์ของนักบุญมัทธิวและธรรมประเพณีทางคริสตศาสนาของท่าน (แหล่ง Q, มาระโก, แหล่ง M) พระวรสารนักบุญมัทธิวเอง และการตีความทั้งหมดนี้โดยสืบเนื่องไปของพระศาสนจักร นักบุญมัทธิวไม่ได้เป็นผู้ที่เราจะตีความกัน (วัตถุที่ถูกกระทำฝ่ายเดียว) อย่างไรก็ได้ ท่านเป็นผู้ร่วมตีความที่ไม่เพียงแต่พูดกับเราเท่านั้น แต่ยังพูดร่วมสมัยกับเราด้วย